IVF

IVF มาจากคำว่า In Vitro Fertilization ซึ่ง In Vitro มาจากภาษาละตินแปลว่า ในแก้ว หรือ ที่เราคุ้นเคยกับคำว่า เด็กหลอดแก้ว นั่นเอง การรักษาของ IVF จะแตกต่างกับ IUI ตรงที่คนไข้ฝ่ายหญิงต้องใช้ยาฉีดที่กระตุ้นการทำงานของรังไข่ให้ผลิตไข่หลายๆ ฟอง เป็นประจำทุกวัน ใช้เวลาประมาณ 8 – 15 วัน ดังนั้น ปริมาณไข่ที่ได้จากการรักษาด้วย IVF ส่วนใหญ่จะมีปริมาณไข่มากกว่า IUI

​

นอกจากนี้ การปฏิสนธิจากวิธี IVF จะเป็นการรวมกันระหว่างกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และกลไกทางธรรมชาติ ซึ่งหมายถึง นักวิทยาศาสตร์จะนำไข่ที่ได้จากกระบวนการเก็บไข่ มาวางไว้บนถาด (Plate) ของห้องปฏิบัติการ และปล่อยตัวอสุจิลงไปในถาดนั้น เพื่อให้ตัวที่แข็งแรงที่สุดทำการผสมกับไข่เอง หลังจากนั้นเมื่อได้ตัวอ่อนแล้ว จะมีการเลี้ยงตัวอ่อนต่อในตู้เพาะเลี้ยง ประมาณ 2 -6 วัน เพื่อทำการย้ายตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูกในภายหลัง

 

ปัญหามีบุตรยากแบบไหน ที่ควรรักษาด้วยวิธีการ IVF

 

• ฝ่ายหญิงที่มีท่อนำไข่อุดตัน หรือ มีการตัดท่อนำไข่ทั้งสองข้าง

• ฝ่ายชายที่ปัญหาเรื่องคุณภาพของน้ำเชื้อ โดยเฉพาะในส่วนของจำนวน และการเคลื่อนที่

• คู่สมรสที่พยายามมีบุตรด้วยวิธีธรรมชาติมามากกว่า 3 ปี แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ โดยที่ไม่ทราบสาเหตุ

• คู่สมรสที่ผ่านการรักษาแบบ IUI มาแล้ว แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ

 

อัตราความสำเร็จของ IVF

อัตราความสำเร็จจากการรักษาด้วยวิธี IVF ขึ้นอยู่กับปัจจัยของแต่ละบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องอายุของคนไข้ ที่อาจมีผลต่อคุณภาพของไข่ และคุณภาพของสเปิร์ม ทั้งนี้ อัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์จากวิธี IVF โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 40% - 50% ต่อรอบการรักษา