top of page
รูปภาพนักเขียนSiam Fertility Clinic

โรคถุงน้ำรังไข่ หากเป็นแล้วอันตรายหรือไม่

โรคถุงน้ำรังไข่มีอยู่หลายชนิดด้วยกัน ทั้งชนิดถุงน้ำธรรมดาที่ไม่มีความอันตราย และถุงน้ำชนิดอันตรายอย่างมะเร็ง ซึ่งเป็นโรคที่ผู้หญิงสามารถเป็นได้ในทุกช่วงอายุ เพื่อการสังเกตตัวเองและเข้ารับการรักษาได้ทันการณ์ ผู้หญิงทุกคนจึงจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลเบื้องต้นร่วมกัน


โดยปกติแล้วถุงน้ำรังไข่มีอยู่หลายชนิดด้วยกัน มีทั้งถุงน้ำธรรมดาที่ไม่ใช่โรคถุงน้ำรังไข่ โดยจะเกิดขึ้นตามปกติเหมือนกับรอบเดือน กลไกในการเกิดถุงน้ำปกติคือฮอร์โมนจะไปกระตุ้นรังไข่ให้เกิดการตกไข่ เพื่อรอการปฏิสนธิต่อไป ส่วนถุงน้ำรังไข่อีกประเภทคือถุงน้ำที่เกิดจากความผิดปกติซึ่งจัดเป็นโรคถุงน้ำรังไข่ มีทั้งแบบที่ไม่ใช่เนื้อมะเร็งและชนิดที่เป็นเนื้อมะเร็ง

ลักษณะของถุงน้ำรังไข่ที่ผิดปกติ

ขึ้นอยู่กับชนิดของถุงน้ำรังไข่ ส่วนมากจะมีลักษณะรังไข่ที่ขยายใหญ่ขึ้น หรืออาการผิดปกติบางชนิดจะทำให้เกิดการบิดเกลียวของปีกมดลูก ซึ่งมีสาเหตุมาจากภาวะแทรกซ้อนจากถุงน้ำรังไข่ โดยภาวะดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อขยับตัวแรงๆ หรือออกกำลังกายหักโหม รวมถึงการเคลื่อนไหวร่างกายในท่าที่ไม่เหมาะสม และถ้าหากมีการบิดเกลียวของปีกมดลูกเกิดขึ้น จะส่งผลให้ปวดท้องรุนแรงและเป็นการปวดแบบฉับพลัน

โรคถุงน้ำรังไข่ยังมีหลายชนิด

ซึ่งต้องได้รับการตรวจละเอียดอีกครั้ง เพื่อดูว่าความผิดปกตินั้นจัดอยู่ในชนิดไหน อาศัยการตรวจดูภายในรังไข่ว่าเป็นน้ำใสๆ หรือมีก้อนเนื้อรวมอยู่ด้วย หากเป็นน้ำใสๆ มักไม่ใช่มะเร็ง แต่ถ้ามีก้อนเนื้อรวมอยู่ด้วย เป็นไปได้ว่าอาจเกี่ยวข้องกับมะเร็งได้ และลักษณะของน้ำภายในรังไข่ก็สามารถจำแนกชนิดของโรคได้เช่นกัน ลักษณะของน้ำภายในรังไข่จะทั้งน้ำเหลวใส น้ำที่มีลักษณะเป็นวุ้น หรือน้ำที่มีลักษณะหนืด เป็นต้น ที่สามารถจำแนกได้ว่าเป็นถุงน้ำลักษณะของเยื่อบุผิว หรือถุงน้ำลักษณะของช็อกโกแลตซีสต์ ขึ้นอยู่กับเซลล์ชนิดของตัวถุงน้ำที่เกิดขึ้น


หากเป็นถุงน้ำที่มีลักษณะโปร่งใสไม่มีผนังกั้น ไม่ใช่มะเร็งแน่นอน และถ้าหากมีผนังกั้นเล็กน้อย ภายในถุงมีน้ำในลักษณะหนืด แต่ไม่มีก้อนเนื้อ ก็อาจจะยังไม่ใช่มะเร็ง แต่ถ้าหากมีก้อนเนื้อปนอยู่มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดมะเร็ง

อาการของโรคถุงน้ำรังไข่

ขึ้นอยู่กับชนิดของถุงน้ำที่เกิดขึ้น บางรายอาจไม่มีอาการ หรือบางรายมีอาการเล็กน้อย บางรายสามารถคลำเจอก้อนที่หน้าท้อง ขนาดของก้อนใหญ่ประมาณลูกส้มโอ หรือบางรายมีปัญหาเรื่องประจำเดือนมาผิดปกติ จากการที่ไข่ไม่ตก เช่น ประจำเดือนมากะปริดกะปรอย หรือบางรายอ้วนขึ้น มีสิว ท้องอืด แน่นท้อง รวมถึงมีตัวก้อน เช่น มะเร็งแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ทำให้ท้องขยายใหญ่หรือท้องมาน เป็นต้น

สาเหตุของการเกิดโรค

ส่วนหนึ่งมาจากการทำงานที่ผิดปกติของตัวรังไข่เอง อาจเกิดการแบ่งตัวของเซลล์บริเวณรังไข่ที่มีการพัฒนามากขึ้นกลายเป็นถุงน้ำรังไข่ หรืออีกประการคือเนื้อผิวปกติมีการยุบตัวเข้าไปทำให้เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่หรือที่เรียกว่าช็อกโกแลตซีสต์ รวมถึงการที่เนื้อผิวยุบตัวเข้าไปอาจทำให้เกิดการซ่อมแซมเซลล์ที่ผิดพลาดและพัฒนาไปเป็นมะเร็งได้อีกด้วย นอกจากนี้ในเรื่องของกรรมพันธุ์ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งของการเกิดโรค

การสังเกตตัวเอง

หากมีอาการปวดหน่วงท้องน้อย ปวดประจำเดือน ท้องขยายใหญ่ขึ้น เบื่ออาหาร น้ำหนักลด คลำเจอก้อนที่หน้าท้อง อ้วนขึ้นหรือท้องขยายใหญ่ขึ้นแต่รับประทานเท่าเดิม ให้สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นโรคถุงน้ำรังไข่ได้ ในผู้ที่มีพฤติกรรมการทานยาคุมหรือฉีดยาคุมเป็นเวลานาน จะช่วยยับยั้งการตกไข่และป้องกันการเกิดถุงน้ำรังไข่ได้ วิธีนี้เป็นการขัดขวางการทำงานในการเกิดถุงน้ำรังไข่ตามปกติ จึงช่วยป้องกันการเกิดโรคได้ และถ้าหากทานยาคุมติดต่อกันเป็นเวลา 5 ปียังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งรังไข่ได้ด้วย ซึ่งเป็นชนิดเยื่อบุผิวที่มักพบในกลุ่มคนที่มีอายุเยอะ

หากมีถุงน้ำรังไข่เกิดขึ้นแล้วไม่รักษา

จะมีความอันตรายต่างกันไปในแต่ละชนิดของถุงน้ำและขนาดของถุงน้ำ หากเป็นถุงน้ำรังไข่ปกติ คือเป็นถุงน้ำที่ทำงานตามรอบเดือน เมื่อมีการตกไข่ถุงน้ำนี้ก็จะสลายไปเอง ไม่มีความอันตรายและไม่จำเป็นต้องรักษา แต่ถ้าเป็นถุงน้ำผิดปกติอย่างช็อกโกแลตซีสต์หรือตัวถุงน้ำรังไข่ที่ไม่ใช่มะเร็ง หากไม่ทำการรักษาในกรณีของช็อกโกแลตซีสต์ จะส่งผลให้ก้อนช็อกโกแลตซีสต์มีขนาดใหญ่ขึ้น และไปทำลายเนื้อรังไข่ที่ปกติ ส่งผลให้เข้าสู่ช่วงวัยหมดประจำเดือนก่อนวัยอันควร หรือในอีกกรณีหากก้อนรังไข่มีขนาดใหญ่ขึ้น จะมีความเสี่ยงต่อการปริ แตก รั่ว หรือบิดขั้วบริเวณปีกมดลูก และเพิ่มความเสี่ยงต่อตัวก้อนได้ หากมีขนาดใหญ่จำเป็นต้องได้รับการรักษา แต่ถ้าหากตัวก้อนมีขนาดเล็ก ในบางรายอาจเกิดขึ้นจากความผิดปกติของการตกไข่ กรณีนี้สามารถทานยาคุมเพื่อช่วยให้ประจำเดือนมาปกติ ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดก็สามารถหายเป็นปกติได้

การผ่าตัดเพื่อรักษา

จะต้องพิจารณาเป็นกรณีไป บางกรณีรักษาโดยการฉีดยา หรือบางกรณีต้องผ่าตัด โดยส่วนใหญ่มักผ่าตัดกับก้อนที่มีขนาดใหญ่ ทั้งชนิดที่ไม่ใช่มะเร็งและชนิดที่เป็นมะเร็ง หลังจากรักษาแล้วโอกาสกลับมาเป็นได้อีกหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับชนิดของถุงน้ำเป็นสำคัญ หากเป็นช็อกโกแลตซีสต์ มีโอกาสกลับมาเป็นอีกได้ ถ้าร่างกายมีฮอร์โมนอยู่หรือมีตำแหน่งที่ผิดปกติอยู่ แต่ถ้าเป็นชนิดของถุงน้ำทั่วไปและไม่ใช่มะเร็ง มีโอกาสหายขาดได้ และถ้าหากเป็นมะเร็งจะขึ้นอยู่กับระยะที่เกิด โดยในระยะแรกมีโอกาสหายขาดสูงแต่ก็ต้องได้รับการติดตามอย่างต่อเนื่อง เพราะสามารถกลับมาเป็นอีกได้เช่นกัน

อาการที่เกี่ยวข้องกับโรคถุงน้ำรังไข่

ได้แก่ ประจำเดือนมาไม่ปกติ ปวดประจำเดือนมากผิดปกติ ปวดประจำเดือนตลอดเวลาในช่วงที่มีรอบเดือน ปวดท้องน้อยตลอดเวลาที่ไม่เกี่ยวกับรอบเดือน รู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ ท้องขยายใหญ่ขึ้น ท้องอืด เบื่ออาหาร น้ำหนักลด หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์




ดู 29 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page